วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

UNIT 4 : The Art of Advertising

Passive Voice
หลักการใช้
ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย เช่น
·                     เขา เดิน
He walked
เขา เป็นประธาน (Subject)
เดิน เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)
·                     เรา กิน มันฝรั่ง
We eat potatoes
เรา เป็นประธาน (Subject)
กิน เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)
ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้ มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้) เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง
·                     Mangoes are eaten
มะม่วง ถูกกิน
มะม่วง เป็นประธาน (Subject)
ถูกกิน เป็นกริยา (Present Tense)
ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ
·                     The letter was read yesterday
จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้
จดหมาย เป็นประธาน (Subject)
ถูกอ่าน เป็นกริยา (Past Tense)
ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก (Passive Voice)
วิธีการแปลประโยค passive ให้เป็นภาษาไทย
สำหรับโครงสร้างแบบ Passive Voice จะแปลว่า ถูกกระทำ เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งแปลว่า ได้รับการกระทำนั้น ดูจะเหมาะกว่า เช่น
·                     He was punished by his teacher a few days ago.
เขาถูกลงโทษ โดยครูของเขาเมื่อ 2 - 3 วันก่อน
·                     The articles were read by most students.
บทความถูกอ่าน โดยนักเรียนส่วนใหญ่
·                     The most valuable ring was stolen . (by someone)
แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)
แต่
·                     He was loved by his friends.
เขาได้รับความรักจากเพื่อน ๆ ของเขา (เราไม่พูดว่า เขาถูกรัก)
·                     Mrs. Brown was promoted . (by someone)
นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
·                     The man was named . The Greatest Inventor (by someone)
ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)
วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ
ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น
1. ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ
2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม
โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป
·                     รูปของ Active Voice คือ S + V
·                     รูปของ Passive Voice คือ S + V to be + V.3
โครงสร้าง Verb to be + V.3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า
1. นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้
2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ
แต่เหนืออื่นใด เวลาจะใช้ประโยคภาษาอังกฤษ ขอให้นักเรียนถามตนเองซ้ำหลายๆ ครั้งก่อนว่า ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่ เมื่อยืนยันกับตนเองได้ว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน จึงค่อยผูกประโยคตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 
วางประธานไว้หน้าประโยค เช่น
A boy
The desk
ปรับคำกริยาให้เป็น V.3 เช่น laughed , written , eaten , punished , done , caughtโดยใช้คำเหล่านี้อยู่หลัง V. to be
กระจายรูป Verb to be ไปตาม Tense ที่ควรจะเป็นและวางหน้ากริยา Past participle
ถ้ากริยาในประโยคเป็นกริยาช่วย (Auxliary Verbs) ต่าง ๆ ก็เพียงแต่นำ be และ Past participle มาวางต่อข้างท้าย ดังนี้คือ
เช่น
The office ought to be opened .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .




ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ

Tenses
V. to be
Past Participles
Present Simple
is, am, are
Thai is spoken in Thailand.
spoken
Present Continuous
is, am, are + being
He is being punished now.
punished
Present Perfect
has, have + been
The new building has been planned.
planned
Present Perfect Continuous
had, have + been + V.ing
The game has been being played for 2 hours.
played
Past Simple
was, were
Our house was painted last year.
painted
Past Continuous
was, were + being
When I arrived, the last guest speaker was being introduced.
introduced
Past Perfect had been
The work had been done before we got up.
done
*Past Perfect Continuous had been + being
When I knew him, he had been being trained for 2 years.
trained
Future Simple
will + be
He will be caught be the police some day.
caught
Future Simple
is, am, are + going to + be
The news is going to be published soon.
published
*Future Continuous
will be + being
At 10 o'clock tomorrow, he will be being questioned.
questioned
Future Perfect
will have + been
By next June, the tests will have been completed.
completed
*Future Perfect Continuous
will have + been + being
By tomorrow, the experiment will have been being conducted for 5 hours.
conducted

ข้อสังเกต Tense ที่มีเครื่องหมาย * ทั้ง 4 tense ไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะยาวและเยิ่นเย้อมากเกินไป

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก) กับกริยาช่วย Modal ต่างๆ

Modal Verbs
V. to be
Past Participles
may,might
can, could
must, haveto
ought to
used to
etc.
+ be +
Past Participle
V3
ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive
a. ถ้าต้องการใช้ Passive Voice ในรูปประโยคคำถามที่มี Question Words ก็วาง Question Words ไว้หน้าประโยคเหมือนในรูป Active Voice ยกเว้นคำว่า Who ให้เปลี่ยนเป็น By Whom เช่น

What will I be taught by you?
-> What will you teach me?

Where was the kitten seen ?
->Were did (someone) see the kitten?

By whom can it be done ?
-> Who can do it?

b. ถ้าเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคคำถาม จะมีรูปเช่น

Let the bell be rung
มาจาก Ring the bell.

Let the boy not be blamed
มาจาก Don't blame the boy.

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

c. ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น

ตัวอย่างประโยคที่ 1
แบบที่ 1 
He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน)
แบบที่ 2 
Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave

ตัวอย่างประโยคที่ 2
แบบที่ 1 

We were shown the museum . (by someone)
แบบที่ 2 
The museum was shown to us . (by someone)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed

ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน

d. ถ้าใน Active Voice มีรูปกริยาดังต่อไปนี้ think , consider , acknowledge , know , say , report , understand , claim , believe , fear , hope , feel , find เช่น

People think that we are flexible.
People know he is impulsive

ประโยคเช่นนี้สามารถใช้โครงสร้าง Passive ได้ 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 ใช้ it เป็นประธาน เช่น

It is thought that we are flexible.
It i s known he is impulsive

แบบที่ 2 เอาข้อความข้างหลังย้ายมาข้างหน้า และตามด้วย to be + adjective เช่น

We are thought to be flexible .
He is known to be impulsive

หมายเหตุ ถ้าใน Active Voice มี Infinitive without to ต้องเปลี่ยนเป็น Infinitive (ที่มี to) ในPassive Voice เว้นคำว่า let เช่น

Active Voice
Passive Voice

I watched him leave.
He was watched to leave.

They made us work hard
We were made to work hard

แต่

He let me go
I was let go

การเติม by

เราจะเติม by เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้ทำกริยานั้น เช่น

·                     I was bitten by his dog .
(ถ้าไม่ใส่ by his dog ก็ไม่รู้ว่าถูกกัดโดยอะไร)
·                     The report was written by Tom .
ถ้าไม่ใส่ by Tom ก็ไม่รู้ว่าใครเขียน รายงาน
แต่บางครั้ง ถ้าไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ หรือผู้กระทำไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องระบุลงไป เช่น

·                     English is spoken all over the world.
(ไม่จำเป็นต้องต่อท้ายประโยคว่า by people )
·                     My ring has been stolen .
(ไม่จำเป็นต้องเติม by someone เข้าข้างท้ายประโยค)
·                     The laws must be obeyed .
(ไม่ต้องเติม by everyone ข้างท้าย)
·                     Dinner is cooked .
(ถ้าผู้กระทำเป็นคำสรรพนาม เช่น by her / him ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เช่นกัน)
นอกจากนั้นไม่ใช่ Passive Voice ทุกประโยคที่ต้องใส่คำว่า by เสมอไป อาจใช้ at, in, of, with ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะพิเศษของกริยานั้น เช่น

·                     He was asked of a lot of questions by the police.
·                     I am pleased at (with) your progress.
·                     The workers were killed in the fire.
·                     The hill is covered with snow.
·                      
การทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense (กริยาช่อง 2)
·                     ในหน้านี้สอนการทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense ทั้งกริยาที่เป็นไปตามกฎ และกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎซึ่งกริยาส่วนใหญ่ จะทำเป็นกริยาช่อง 2 ได้ด้วยการเติม -ED ไว้ท้ายคำกริยานั้น แต่อย่างไรก็ตาม คำกริยาบางคำต้องปรับคำกริยานั้นเสียก่อน
·                      
·                     นี่คือตารางกฎการเติม -ED
·                      
กริยาที่ลงท้ายด้วย
การทำกริยาให้เป็นรูปอดีต
ตัวอย่าง
·                      
e
เติม -D
live - lived
date - dated
พยัญชนะ + y
เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ED
try - tried
cry - cried
สระหนึ่งตัว + พยัญชนะหนึ่งตัว (แต่ต้องไม่ใช่ w หรือ y)
เพิ่มพยัญชนะท้ายตัวนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วเติม -ED
tap - tapped
commit - committed
[อืนๆ]
เติม -ED
boil - boiled
fill - filled
hand - handed
·                     แม้ว่ากริยาส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปอดีตได้ด้วยการเติม -ED แต่กริยาบางตัวก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น กริยาเหล่านั้นเรียกว่า กริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ (Irregular Verbs) ครูจะอธิบายรูปแบบที่สำคัญในการทำกริยาประเภทนี้ให้เป็นรูปอดีต แต่ต้องจำไว้ว่านี่ไม่ใช่กฎ เป็นเพียงรูปแบบที่พบบ่อยๆเท่านั้น กล่าวคือในที่สุดแล้วการจำ หรือการใช้อยู่เป็นประจำจะช่วยให้ทำกริยาให้เป็นอดีตได้อย่างคล่องแคล่ว
·                      
·                     ถ้าไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ ก็ให้ใช้วิธีการท่องจำคำกริยาเหล่านี้นะ ส่วนใครที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ อาจไม่ต้องท่องจำ
·                      
·                     คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎที่สำคัญ 3 คำ
·                      
·                     กริยาที่สำคัญเหล่านั้นได้แก่ กริยา BE, HAVE, DO กริยา BE เป็นกริยาที่ยากที่สุดเพื่อรูปกริยาจะเปลี่ยนไปตามประธาน
·                      
ประธาน
คำกริยา
·                      
I
was
You
were
He / she / it
was
We
were
They
were
·                     กริยา HAVE และ DO
·                      
คำกริยา
คำกริยาในรูปอดีต
·                      
have
had
do
did
·                     คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎคำอื่นๆ
·                      
·                     คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎอาจจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม
ประเภท
ตัวอย่าง
คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป
cut - cut
hit - hit
fit - fit
คำกริยาที่เปลี่ยนรูปสระ
get - got
sit - sat
drink - drank
คำกริยาที่เปลี่ยนรูปไปเลย
catch - caught
bring - brought
teach - taught

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น